เชื่อว่าแฟนเกมจำนวนมากอาจเป็นเจ้าของเกม Stray และเล่นเกมนี้จนจบไปแล้ว ถือเป็นเกมจากสตูดิโออินดี้ที่สร้างมาตรฐานด้านการดำเนินเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม จากทั้งบทสนทนา ข้อความที่ถูกวางไว้ให้สำรวจ ฉากหลังของเมืองแบบดิสโทเปียที่เก็บบรรยากาศได้ครบ และเจ้าแมวส้มสุดน่ารักที่ดึงผู้เล่นให้เข้าสู่โลกของเกมได้อยู่หมัด

และนั่นทำให้เกิดประโยคที่ว่า “เกมจบ แต่เรื่องราวยังไม่จบ” ขึ้นมา ด้วยความยาวเกมเพียงราว 5 ชั่วโมง ทำให้ผู้เล่นไม่อาจทราบเรื่องราวของตัวเกมทั้งหมดได้ และมีเนื้อเรื่องสำคัญหลายส่วนที่ BlueTwelve สตูดิโอผู้สร้าง น่าจับมาสานต่อเป็นเกมภาคใหม่ หรือภาคต่อในอนาคต ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงเนื้อหาที่น่าสนใจ และเหมาะสมที่จะนำไปสานต่อ ให้จักรวาลของเกมนี้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น

“บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเกม Stray” 

1. การโจมตีของแมว ถ้ายังมีแมวตัวเดิมเป็นตัวละครเอก

สำหรับตัวเกม Stray ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปนั้น จะมีการเน้นถึงพฤติกรรมของแมวส้ม ตัวละครเอกของเกมแทบทุกรูปแบบ ทั้งการปีนขึ้นที่สูง การส่งเสียงร้อง การขูดผนังและประตู ทำของตก และก่อกวนเหล่าหุ่นยนต์ พร้อมกับเอาชีวิตรอดจากพวก Zurks สิ่งมีชีวิตที่กัดกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ในช่วงหนึ่งของเกม ผู้เล่นจะสามารถใช้ปืนลำแสงความเข้มข้นสูง เพื่อจัดการกับพวกมันได้

อย่างไรก็ตาม ปืนนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ติดเข้ากับเจ้าหุ่น B-12 ราวกับว่าสิ่งที่เจ้าแมวทำได้มีเพียงแค่การหลบหนีเท่านั้น ประกอบรวมกับตอนจบของเกมที่ผู้เล่นสามารถออกจากเมืองใต้ดินได้สำเร็จ ถ้าผู้เล่นยังคงได้รับบทเป็นแมวในภาคต่อ หรือภาคแยกของเกม ผู้เล่นอาจมีความหวังที่จะได้เห็นแมวโจมตีสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายกันโดยตรงโดยไม่พึ่งเจ้า B-12 อีกต่อไป เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า สิ่งที่เจ้าแมวจะต้องเจอภายนอกนั้น จะเป็นอะไรกันแน่

2. เรื่องราวในเมือง ช่วงที่เริ่มเกิดหายนะกับมนุษย์

ชัดเจนว่าเมืองใต้ดินคือที่อยู่ของมนุษย์นับหมื่นคน แต่บัดนี้พวกเขาหายไปอย่างไม่มีวันกลับ และถูกแทนที่ด้วยเหล่าหุ่นยนต์ผู้ช่วยมนุษย์ที่ตื่นรู้ และพยายามใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด ในช่วงหนึ่งของเนื้อหาเกม B-12 จะได้รับรู้ถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ ว่าเป็นฝีมือของเชื้อโรคปริศนา จนไม่มีมนุษย์คนใดอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ได้อีกต่อไป

และในช่วงหนึ่งของตัวเกมจะมีการเปิดเผยว่า B-12 ก็คือมนุษย์นักวิจัย ที่อัปโหลดตนเองเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต ก่อนที่เจ้าแมวจะทำให้สติปัญญาของเขาเข้ามาสู่ร่างของ B-12 และร่วมผจญภัยไปพร้อมกับผู้เล่น ดังนั้นถ้าตัวเกมมีภาคใหม่ในลักษณะของ Prequel เล่าถึงชีวิตของนักวิจัยคนนี้ หรือบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เราอาจได้เห็นภาพเหตุการณ์สะเทือนใจเหล่านั้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

3. การผจญภัยของแมวอีก 3 ตัวที่เหลือ

ก่อนที่เจ้าแมวส้มจะตกลงมาสู่เมืองใต้ดิน น้องได้เดินทางออกผจญภัยกับแมวอีก 3 ตัวที่เป็นดั่งครอบครัว เมื่อแมวส้มตัวละครหลักจากพวกเขาไปแล้ว พวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไปในโลกด้านบนนี้ จะพยายามออกตามหาแมวส้มหรือไม่ และจะต้องพบเจอกับอะไรที่โลกใต้ดินไม่มีบ้าง ถือเป็นเส้นเรื่องแยกที่น่าสนใจ

ในเกมเพลย์สำหรับเนื้อเรื่องส่วนนี้ อาจสร้างให้เป็นการผจญภัยของเหล่าแมวล้วน ๆ เพื่อเน้นความสมจริงของพฤติกรรมของแมวให้มากขึ้น และอาจวางให้แมวตัวหนึ่งเป็นตัวละครหลัก พร้อมมีแมวตัวอื่นเป็นตัวละครสนับสนุน หรือมียทสรุปที่จะเยี่ยมโยงไปยังเจ้าแมวส้ม ที่กำลังออกตามหาครอบครัวของพวกเขา หากพวกเขาได้กลับมาพบกันใหม่ อาจเป็นฉากเรียกน้ำตาต่อเนื่องกับตอนจบของเกมหลักได้ดีเลยทีเดียว

4. รับบทเป็นหุ่นยนต์เสียเอง

เมื่อมนุษย์ในเมืองใต้ดินจากโลกนี้ไปหมดแล้ว หุ่นยนต์จึงเริ่มมีความรู้สึกนึกคิดแบบเดียวกับมนุษย์ และก้าวข้ามไปถึงการคิดค้นวัฒนธรรม ภาษา ระบบชนชั้นเป็นของตนเองใกล้เคียงกับสิ่งที่มนุษย์เคยทำมา และนั่นทำให้เกิดกลุ่มหุ่นยนต์ที่ต้องการต่อต้านระบบชนชั้นที่เกิดขึ้น พร้อมพยายามขึ้นไปด้านบนของเมืองเพื่อออกจากเมืองนี้ให้ได้

ในเกมหลักจะเน้นบอกเล่าถึงกลุ่มตัวละครชื่อว่า The Outsider ผ่านการนำของหุ่นยนต์สี่ตัว คือ Momo, Doc, Zbaltazar และ Clementine พวกเขาใช้ชีวิตในสลัมได้อย่างยากลำบาก และพวกเขาก็ถูกหมายหัวเป็นกลุ่มกบฏกับหุ่นยนต์ด้วยกันในเมืองชั้นบน หากเกมภาคต่อไปหรือภาคแยกจะนำเสนอเรื่องราวการเอาชีวิตรอด และภารกิจปลดแอกเมืองครั้งใหญ่ ก็ถือเป็นเรื่องราวที่น่าติดตามเช่นกัน

5. เรื่องราวในเมืองใต้ดินแห่งอื่น

เมื่อคู่หูแมวและหุ่นยนต์ B-12 ดำเนินเรื่องราวมาจนถึงช่วงท้ายของเกม เราจะทราบทันทีว่า เมืองใต้ดินทั้งหมดที่เราผจญภัยมาตลอดมีชื่อว่า Walled City 99 สาระสำคัญอยู่ตรงที่เลข 99 ที่อยู่ท้ายชื่อเมือง อาจสื่อได้ว่าเมืองนี้ไม่ใช่เมืองใต้ดินเพียงแห่งเดียว

ถ้าเรื่องราวใน Stray คือเรื่องราวของมนุษย์ที่พยายามสร้างเมืองหลายแห่ง และให้มนุษย์ที่อยู่บนพื้นโลกลงมาด้านล่างทั้งหมด ก็มีความเป็นไปได้ว่า การบริหารของเมืองต่าง ๆ อาจไม่เหมือนกัน มีกลุ่มคนหรือหุ่นยนต์ที่มีความคิดต่างกันออกไป และนำไปสู่ชีวิตชาวเมืองที่หลากหลาย คล้ายคลึงกับจักiวาลของ Fallout หากผู้พัฒนาเกมต้องการที่จะขยายจักรวาล โดยใช้เมืองอื่นเป็นฉากหลัง จะทำให้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นถูกขยายและบอกเล่าได้ไม่รู้จบ